SLider section

ปอเปี๊ยะทอด

ภาค กลาง

  • recipe image cover

ปอเปี๊ยะทอด

 

 

ความเป็นมา

ปอเปี๊ยะทอดเป็นอาหารเวียดนามที่คนไทยนิยมกินกัน แผ่นแป้งปอเปี๊ยะทำจากแป้งข้าวเจ้าซึ่งเป็นแผ่นแป้งที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ปอเปี๊ยะมีทั้งชนิดสดและทอด จัดเป็นของกินเล่นหรือของว่างที่กินได้เกือบตลอดวัน

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ปอเปี๊ยะทอดจัดเป็นอาหารสุขภาพ ปอเปี๊ยะ 1 ชิ้น โดยทั่วไปให้พลังงาน 39 กิโลแคลอรี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของไส้ซึ่งจะนิยมใส่วุ้นเส้น กะหล่ำปลี หมูสับ เห็ดหูหนู ซึ่งให้พลังงานไม่มาก อีกทั้งยังมีผักสดต่างๆ ที่เป็นผักเคียง เช่น ใบโหระพา กะหล่ำปลี ที่ให้วิตามินและกากใยแต่เมื่อทอดปอเปี๊ยะในน้ำมันไม่ร้อนพอจะทำให้อมน้ำมัน เป็นการเพิ่มปริมาณของไขมันที่ร่างกายได้รับจนมากเกินไป

 

ส่วนผสม

วุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่ม                         150    กรัม

หมูสับ                                             80      กรัม

เห็ดหูหนูหั่นชิ้นเล็ก                         50      กรัม

กะหล่ำปลีซอย                                80      กรัม

แครอทซอย                                      30      กรัม

ซีอิ๊ว น้ำปลา สำหรับปรุงรส

น้ำมันสำหรับผัดและทอด

แผ่นปอเปี๊ยะสำหรับห่อ

ผักเครื่องเคียง เช่น ใบโหระพา กะหล่ำปลี

 

ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้ม พริกชี้แดงกรีดเม็ดออก 3 เม็ด กระเทียม 4-5 กลีบ ตำรวมกันให้ละเอียด น้ำส้มสายชู ¾ ถ้วย น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา ผสมกับพริกที่ตำไว้ นำไปตั้งไฟให้งวด

 

วิธีทำเปาะเปี๊ยะ

ผัดส่วนผสมวุ้นเส้นทั้งหมดให้เข้ากัน จนสุกนุ่ม ปรุงรส นำแผ่นปอเปี๊ยะมาห่อไส้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมยาว ทอดในน้ำมันร้อนท่วมจนสุก กินกับน้ำจิ้ม และผักสด

 

 

ภาค กลาง

แกงหมูใบชะมวง

ความเป็นมา แกงน้ำขลุกขลิกที่ไม่ใส่กะทิแต่ต้องใช้เนื้อหมูติดมันอย่างหมู 3 ชั้นจึงจะอร่อย การกินเนื้อหมูเป็นวัฒนธรรมของจีนที่ไทยได้รับมาตั้งแต่อดีตเมื่อชาวจีนอพยพเข้ามา และมีการผสมผสานใช้ผักพื้นบ้านไทยโดยเฉพาะใบชะมวงมาปรุงเพื่อให้มีรสเปรี้ยว เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี คุณค่าทางโภชนาการ ใบชะมวงมีสรรพคุณที่สำคัญคือ ให้รสเปรี้ยว มีสารอาหาร เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 และแร่ธาตุอีกมากมายรวมถึงแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัส เมื่อกินพร้อมเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงร่วมกันร่างกายจะสามารถนำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ใบ ยอดอ่อน และผลของชะมวงยังจัดเป็นยาโบราณที่ช่วยระบายท้อง แก้ไข้ ฟอกเสมหะ ไอ กระหายน้ำ แก้ธาตุพิการ อีกด้วย ส่วนผสมเครื่องแกง พริกไทยเม็ด                              1     ช้อนโต๊ะ ข่าหั่นบาง                                 15   กรัม หอมแดง                                   2     ช้อนโต๊ะ กระเทียม                                   2     ช้อนโต๊ะ รากผักชีหั่น                               2     ช้อนชา พริกชี้ฟ้าแห้งกรีดเม็ดออก            15   กรัม กะปิเผา                                     1     ช้อนชา ส่วนผสมแกงหมูชะมวง หมูสามชั้นเนื้อมากติดมันน้อย       500 กรัม หรือเนื้อหมูส่วนติดมัน หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมใหญ่ ใบชะมวงใบไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป    80   กรัม น้ำมัน                                       1     ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด                                  4     ถ้วย น้ำปลา                                     3     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ                                 3     ช้อนโต๊ะ วิธีทำ หั่นใบชะมวงเป็นครึ่งส่วนพักไว้ ปั่นหรือตำเครื่องแกงให้ละเอียด นำเครื่องแกงไปผัดกับน้ำมัน และเนื้อหมู เติมน้ำสะอาดต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ใส่ใบชะมวงลงไปคนให้เข้ากัน ต้มต่อไปจนน้ำงวดลง และใบชะมวงอ่อนนุ่ม ตักขึ้นเสิร์ฟ


เพิ่มเติม

ภาค เหนือ

แกงหัวปลี

ความเป็นมา แกงหัวปลีหรือแกงปลี เป็นแกงผักชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกันเพราะมีประโยชน์และสรรพคุณที่มากมาย สามารถหาทานได้ไม่ยาก   คุณค่าทางโภชนาการ หัวปลีมีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนมของแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร รักษาโรคกระเพาะ และแก้ร้อนใน   ส่วนผสม หัวปลี                                         400    กรัม เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นๆ                        200    กรัม ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ                      50      กรัม พริกขี้หนูบุบ                                   5        กรัม น้ำปลา                                            2        ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า                                          5        ถ้วยตวง ส่วนผสมน้ำพริกแกง พริกแห้ง                                        5        เม็ด ข่าหั่นละเอียด                               2        ช้อนชา ตะไคร้หั่นฝอย                              3        ช้อนโต๊ะ เกลือป่น                                       1        ช้อนชา กระเทียมซอย                               2        ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย                                3        ช้อนโต๊ะ ปลาร้าสับละเอียด                          1        ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ตำหรือปั่นส่วนผสมพริกแกงให้ละเอียด จากนั้นตั้งน้ำให้เดือดใส่เนื้อหมูลงไปต้มจนเริ่มสุก ในพริกแกงลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่พริกขี้หนู และหัวปลีซอยลงไปต้มจนหัวปลีสุกนุ่ม ตักขึ้นเสิร์ฟ โรยด้วยต้นหอมหั่นท่อน


เพิ่มเติม

ภาค อีสาน

หมกหน่อไม้

  ความเป็นมา หมกหน่อไม้เป็นอีกเมนูหนึ่งซึ่งใช้ส่วนผสมคล้ายกับต้มเปรอะ แต่เปลี่ยนเป็นการห่อด้วยใบตองแล้วนำไปนึ่ง หน้าตาจะใกล้เคียงกับห่อหมกของภาคกลาง หมกหน่อไม้มีรสชาติที่เข้มข้น และจัดจ้านกว่าต้มเปรอะ   คุณค่าทางโภชนาการ หมกหน่อไม้มีสรรพคุณหลากหลาย เช่น น้ำใบย่านางช่วยเสริมสร้างภูมิต้านโรคในร่างกายให้แข็งแรง หน่อไม้มีเส้นใยอาหารจำนวนมากจึงทำให้ช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีนอกจากนั้นตะไคร้ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลม บำรุงร่างกาย และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี   ส่วนผสม หน่อไม้รวก ขูดเส้น               300    กรัม พริกขี้หนู                           10      กรัม น้ำใบย่านาง                       1        ถ้วย ตะไคร้หั่น                           30      กรัม ข้าวเบือ                               2        ช้อนโต๊ะ หอมแดง                             30      กรัม หมูสามชั้น หั่นชิ้น                200    กรัม น้ำปลาร้า                               3        ช้อนโต๊ะ น้ำปลา                                   ½       ช้อนโต๊ะ ใบแมงลัก                          10      กรัม ใบตองสำหรับห่อ   วิธีทำ โขลก พริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดงให้ละเอียด จากนั้นใส่ในชามผสมใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไป ปรุงรส ด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า คลุกเคล้าให้เข้ากันนำส่วนผสมที่ได้บีบน้ำออกเล็กน้อยวางลงบนใบตอง แล้วห่อให้สนิท จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พร้อมเสิร์ฟ        


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire