SLider section

ส้มตำไทย

ภาค อีสาน

  • recipe image cover

ส้มตำไทย

ความเป็นมา

ส้มตำไทย เป็นอาหารไทยยอดนิยมอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อเสียงแพร่หลายไปยังต่างประเทศ มีรสชาติที่ถูกปาก และจากวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น จึงเป็นอาหารที่ทำได้สะดวก  อร่อย อีกทั้งยังให้คุณค่าทางโภชนาการสูง

 

คุณค่าทางโภชนาการ

ส้มตำไทย เป็นอาหารสุขภาพ ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินเกลือแร่จากผัก และเครื่องปรุงต่างๆ เช่น มะละกอมีเอนไซน์ปาปีน ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดี น้ำมะนาว มะเขือเทศ พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

 

ส่วนผสม

มะละกอดิบสับเป็นเส้น          80      กรัม

แครอทขูดเส้น                     20      กรัม

กระเทียม                             5        กรัม

พริกขี้หนู                             3        เม็ด

มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง            30      กรัม

ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน            25      กรัม

กุ้งแห้ง                              2        ช้อนโต๊ะ

ถั่วลิสงคั่ว                           1        ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา                               1        ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว                          ¼       ถ้วย

น้ำตาลปี๊บ                          1        ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ

ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก โขลกให้พอแหลก ตามด้วยถั่วฝักยาวโขลกพอแหลกจากนั้นใส่มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา  แล้วคลุกให้เข้ากันใส่มะละกอ ตามด้วยถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้งแล้วโขลกเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันชิมแล้วปรุงจนชอบ ตักใส่จาน รับประทานพร้อมผักสด

ภาค ใต้

ยำผักกูดกุ้งสด

ความเป็นมา ผักกูดเป็นผักพื้นบ้านที่มีต้นคล้ายกับเฟิร์น ลำต้นยาว ยอดงอม้วน ขึ้นตามชายป่าริมน้ำ ซึ่งเป็นภูมิประเทศของแถบทางใต้ ถ้าขึ้นที่ใดแสดงว่าบริเวณนั้นดินดีไม่มีสารปนเปื้อน ชาวบ้านช่างสังเกตเก็บผักนี้มาทำอาหารได้ทั้งลวกจิ้มน้ำพริก ผัด ยำ   คุณค่าทางโภชนาการ ผักกูดเป็นผักรสจืดอมหวานนิดๆ ทั้งใบและต้นสีเขียวมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก ซึ่งจะช่วยบำรุงร่างกายโดยเฉพาะสายตาได้อย่างดี และที่ชาญฉลาดกว่านั้นเบต้าแคโรทีนจะดูดซึมได้ดีเมื่อมีไขมันร่วมด้วย การราดกะทิลงในยำจานนี้จึงทำให้ได้คุณค่าอาหารอย่างเต็มเปี่ยม   ส่วนผสม ผักกูดเด็ดยาว 1 นิ้ว ลวก        100 กรัม กุ้งสดลวก                               80   กรัม หัวกะทิ                                    ½    ถ้วย ถั่วลิสงบุบหยาบ                      ¼    ถ้วย หอมแดงซอย                           ½    ถ้วย มะพร้าวคั่ว                                ¼    ถ้วย กุ้งแห้งตำ                                  ¼    ถ้วย พริกขี้หนูซอย                            5     กรัม น้ำมะนาว                                    2     ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย                                2     ช้อนโต๊ะ เกลือ                                             1     ช้อนชา วิธีทำ ผสมน้ำมะนาว น้ำตาลทราย เกลือ ให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่ส่วนผสมอื่นๆ ยกเว้นกะทิลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว เมื่อจะเสิร์ฟจึงราดกะทิบนหน้า ก่อนรับประทานคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ผัดสะตอหมูกุ้ง

ความเป็นมา อาหารที่นำผักท้องถิ่นของภาคใต้มาผัดกับเนื้อหมู กุ้ง ใส่กะปิให้มีรสเค็ม และมีกลิ่นหอมจากหอมแดง กระเทียม ใช้เทคนิคการผัดกับน้ำมันโดยใช้ไฟร้อนเหมือนกับการผัดทั่วไป นับเป็นอาหารที่แพร่หลายในหลายภูมิภาค ไม่ใช่เฉพาะในภาคใต้เท่านั้น   คุณค่าทางโภชาการ เม็ดสะตอเนื้อนุ่มกรอบ รสมัน มีกลิ่นรุนแรง จะกินสดหรือผัดให้สุกก็ได้ สะตอเป็นผักที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง สะตอ 20 เม็ดให้พลังงานพอๆ กับขนมปัง 2 แผ่น และยังอุดมไปด้วยโปรตีน สะตอ 100 กรัมให้พลังงาน  130  กิโลแคลอรี  โปรตีน 8 กรัม คาร์โบไฮเดรท 15.5 กรัม แคลเซียม 76 มิลลิกรัม และฟอสฟอรัส 83 มิลลิกรัม   ส่วนผสม เนื้อหมูหั่นบาง               300 กรัม กุ้งแชบ๊วย                     300 กรัม สะตอ                           ½    ถ้วย น้ำมันสำหรับผัด            2     ช้อนโต๊ะ กะปิ                                1     ช้อนโต๊ะ กระเทียม                       10   กรัม หอมแดง                        40   กรัม น้ำปลา                            2     ช้อนชา เกลือ                               ½    ช้อนชา พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ          1     เม็ด    


เพิ่มเติม

ภาค ใต้

ต้มกะทิหน่อไม้กุ้งสด

ความเป็นมา คนใต้ชอบกินแกงกะทิแต่ไม่นิยมเป็นแกงเผ็ดเสมอไป แกงนี้จึงเป็นแกงกะทิรสหวานตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้หวานขึ้นจากหน่อไม้ที่มีมากในฤดูฝน ใส่เนื้อสัตว์อย่างกุ้งสดที่ช่วยให้กะทิหอมหวานยิ่งขึ้น และใส่สะตอเนื้อนุ่มกรุบรสมัน เพิ่มความอร่อยได้อีกหลายเท่าตัว   คุณค่าทางโภชนาการ หน่อไม้เป็นต้นอ่อนของไผ่ที่มาพร้อมกับฤดูฝน พอฝนโปรยก็จะแทงหน่อข้างๆ ต้นไผ่ เนื้อจะชุ่มน้ำ รสหวาน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสพอสมควร มีกากใยสูงที่ช่วยในการขับถ่าย แกงนี้เป็นแกงกะทิรสหวานตามธรรมชาติที่ใส่สะตอเม็ดเขียวที่ให้ทั้งพลังงานและโปรตีน สะตอ 100 กรัมมีโปรตีนถึง 8 กรัม และเมื่อใส่กุ้งสดซึ่งเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แกงนี้จึงมีโปรตีนทั้งจากพืชและสัตว์ครบถ้วน   ส่วนผสม กุ้งสด                                       200    กรัม หน่อไม้สดหั่นเป็นชิ้นบาง        200    กรัม สะตอ                                        80      กรัม กะทิ                                           2        ถ้วย กระเทียมบุบ                             10      กรัม เกลือ น้ำตาล อย่างละเล็กน้อย   วิธีทำ ลวกหน่อไม้เตรียมไว้ นำกะทิขึ้นตั้งไฟใส่กระเทียม เมื่อกะทิเดือดใส่หน่อไม้ลงไป ใส่สะตอ รอให้เดือดอีกครั้งใส่กุ้ง ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล    


เพิ่มเติม

close[x]
Questionnaire